วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556

วิธีการฝึกภาษาอังกฤษด้วยการดูหนัง 2

ภาพจากซีรีส์เรื่อง Merlin
 
วิธีที่ 3 ดูหนัง No Subtitle ตามด้วย English Subtitle
 
คำถามที่ควรตั้งให้กับตัวเอง จะรู้สึกอย่างไรถ้าหากดูหนังแล้วไม่มีความสนุกเลย?
เวลาที่ใช้ในการฝึก 4-6 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับความยาวของหนัง)
วิธีฝึกให้ได้ผล วิธีนี้จะมีความคล้ายคลึงกับวิธีที่ 2 เพียงแต่วิธีนี้จะเน้นไปถึงการทำความเข้าใจถึงส่วนต่างๆของเรื่องที่เราไม่ สามารถจับใจความได้ โดยการดูรอบแรกเป็นเพียงการทำความเข้าใจกับเนื้อเรื่องว่าเป็นไปในลักษณะใด และพยายามที่จะฟังประโยคต่างๆให้ออกเท่านั้น โดยรอบที่สองนั้น เราจะต้องพยายามอ่าน subtitle ให้หมด เพื่อดูว่าประโยคต่างๆนั้นเป็นไปตามที่เราฟังหรือไม่
 
ภาพจากภาพยนตร์เรื่อง Harry Potter
 
วิธีที่ 4 ดูหนัง Thai Subtitle
 
คำถามที่ควรตั้งให้กับตัวเอง จะสามารถบังคับตัวเองไม่ให้ดู Subtitle มากน้อยเพียงใด?
เวลาที่ใช้ในการฝึก 2-3 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับความยาวของหนัง)
 
วิธีฝึกให้ได้ผล ใครที่เป็นคอหนังตัวจริงแล้ว คงจะต้องอยากรู้ถึงวิธีการฝึกภาษาอังกฤษไปกับการดูหนัง Thai Subtitle นี้อย่างแน่นอน นั่นก็เป็นเพราะว่า เราจะต้องพบกับหนัง Thai Subtitle ทุกครั้งที่เราไปดูหนังในโรง แต่ประสิทธิภาพในการฝึกภาษาอังกฤษด้วยการดูหนังชนิดนี้นั้นไม่ค่อยดีสัก เท่าไร นั่นก็เป็นเพราะ สิ่งที่เราได้รับมาคือคำแปลจากผู้บรรยาย ไม่ใช่คำแปลที่ผ่านจากกระบวนความคิดของเรา แต่ยังไงก็ตามยังมีวิธีที่จะทำให้การดูหนังประเภทนี้ช่วยเราในการฝึกภาษา อังกฤษได้บ้าง ซึ่งเป็นวิธีง่ายๆ แต่ทำได้ยาก นั่นก็คือ “การพยายามไม่ดู subtitle” โดยจะดูก็ต่อเมื่อฟังไม่รู้เรื่องเท่านั้น เช่น ไม่มอง subtitle เมื่อเป็นฉากที่ตัวละครพูดค่อนข้างช้า หรือ อาจจะเป็นฉากที่เด็กหรือคนสูงวัยพูด ก็ได้ โดยสิ่งสำคัญในการฝึกคือ ต้องอดทนและกลั้นใจไม่มอง subtitle นั่นเอง อย่างไรก็ตาม อยากให้เลือกดูหนัง Thai Subtitle เป็นตัวเลือกสุดท้ายในการฝึกภาษาอังกฤษ เนื่องจากเป็นวิธีที่ได้ผลน้อยที่สุด
 
ภาพจากภาพยนตร์เรื่อง The Host
สำหรับ สิ่งที่จะได้เรียนรู้จากการดูหนังด้วยวิธีต่างๆเหล่านี้ก็ได้แก่ ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้ในชีวิตประจำวัน, คำศัพท์ Slang และ Technical Terms, ทักษะการฟัง (Listening skills), ความคุ้นเคยกับสำเนียงต่างๆ, หลักการใช้ Grammar และ Tenses ต่างๆ และอื่นๆ โดยเราจะได้ความรู้มากน้อยเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับตัวเราเองว่า มีความอดทนและความพยายามมากน้อยเพียงใด 

ข้อมูลจาก

http://www.dek-eng.com/2535/ภาษาอังกฤษน่ารู้/แนะนำเกี่ยวกับภาษาอังกฤษต่างๆ/เรียนภาษาอังกฤษด้วยการดูหนัง.html

วิธีการฝึกภาษาอังกฤษด้วยการดูหนัง 1

ภาพจากซีรีส์ Once Upon A Time


หลาย คนคงรู้สึกเบื่อหน่ายกับการเรียนภาษาอังกฤษด้วยการท่องจำ และก็คงอยากที่จะหาวิธีอื่นๆมาใช้ในการฝึกฝนกัน หนึ่งในวิธียอดฮิตที่หลายคนใช้เพื่อฝึกทักษะภาษาอังกฤษด้านต่างๆ ก็คือ การดูหนังหรือซีรีส์ฝรั่งต่าง ลองมาดูกันดีกว่าว่าเราสามารถที่จะฝึกภาษาอังกฤษควบคู่ไปกับการดูหนังเหล่า นี้ได้อย่างไร
ประเภทของหนังที่แนะนำให้เลือกในการฝึกเบื้องต้น ได้แก่ หนัง Romantic, หนัง Comedy, Animation และ หนังสำหรับวัยรุ่นต่างๆ
สิ่งที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด การฝึกพูดตามตัวละครทุกๆรอบที่ดูโดยอาจพยายามเลียนแบบ Accent ของตัวละครนั้นๆ พร้อมกับจดคำศัพท์หรือประโยคต่างๆที่เราไม่เคยเจอ หรือแปลไม่ออก เพื่อมาหาความหมายทีหลัง


ภาพจากภาพยนตร์ The Proposal


 วิธีที่ 1 ดูหนัง Thai Subtitle ตามด้วย English Subtitle แล้วดู No Subtitle

คำถามที่ควรตั้งให้กับตัวเอง จะรู้สึกเบื่อที่จะดูหนังซ้ำไปซ้ำมาหรือเปล่า?

เวลาที่ใช้ในการฝึก 6-8 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับความยาวของหนัง)

วิธีฝึกให้ได้ผล วิธีนี้คงเป็นวิธีที่ทุกคนคงเคยได้รับคำแนะนำมาเพื่อใช้ฝึกภาษาอังกฤษอยู่ บ่อยๆ แต่ไม่เคยได้ทำตามเลยแม้สักครั้ง เนื่องจากต้องมีเวลาจริงๆ ทั้งนี้ทั้งนั้น เราไม่จำเป็นต้องดูหนังทั้งหมดนี้ให้จบในวันเดียวกัน แต่สามารถแบ่งไปดูวันอื่นๆก็ได้


ภาพจากภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่อง Rise of The Guardians


วิธีที่ 2 อ่าน Plot หรือ ดูตัวอย่างหนัง ตามด้วย English Subtitle

คำถามที่ควรตั้งให้กับตัวเอง จะรู้สึกอย่างไรหากต้องดูหนังแล้วไม่สามารถเข้าถึงแก่นที่แท้จริงของหนังได้?
เวลาที่ใช้ในการฝึก 2-3 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับความยาวของหนัง)
วิธีฝึกให้ได้ผล วิธีนี้อาจจะเป็นตัวเลือกสุดท้ายสำหรับใครบางคน เนื่องจากคิดว่าดูหนังไม่รู้เรื่องแน่ๆ แต่ถ้าลองคิดดูดีๆแล้ว วิธีนี้อาจจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดเลยก็ว่าได้เนื่องจากประหยัดเวลา และนอกจากนั้นการดูหนังแบบนี้ยังช่วยให้เราสร้างความหมายของคำศัพท์ต่างๆมา ด้วยตัวเอง และไม่จำกัดตัวเองอยู่แค่ความหมายของประโยคและคำต่างๆที่ผู้แปลเรียบเรียง ขึ้นมา แต่ข้อเสียก็อาจจะเป็น การที่ดูหนังจบแล้ว แต่ไม่รู้เรื่องสักเท่าไร จึงแนะนำวิธีนี้สำหรับคนที่มีพื้นฐานทางภาษาอังกฤษมาแล้วในระดับหนึ่ง แต่ใครที่ไม่มีเวลาหรืออยากที่จะมีความรู้สึกเดียวกับการที่เราต้องไปอยู่ ท่ามกลางฝรั่ง วิธีนี้ก็คงเป็นตัวเลือกที่ดีในการมองหาจุดบกพร่องของเรา

ข้อมูลจาก

http://www.dek-eng.com/2535/ภาษาอังกฤษน่ารู้/แนะนำเกี่ยวกับภาษาอังกฤษต่างๆ/เรียนภาษาอังกฤษด้วยการดูหนัง.html

เรียนภาษาอังกฤษจากภาพยนตร์



Stardust (2007) ศึกมหัศจรรย์ ปาฏิหาริย์รักจากดวงดาว 




             Stardust เป็นเรื่องราวของทริสตันชายหนุ่มผู้หนึ่งที่ออกตามหาดาวตกเพื่อพิสูจน์รักแท้แก่วิคตอเรียหญิงสาวที่เขาหลงรัก แต่ดาวตกของเขานั้นกลับกลายเป็นหญิงสาวที่ตกมาจากฟ้าพร้อมกับสร้อยคอเจ้าปัญหา นอกจากจะต้องพาตัวเธอกลับมาให้ทันวันเกิดวิคตอเรียแล้ว เขายังต้องหนีเหล่าแม่มดและเจ้าชายทั้งหลายที่ตามไล่ล่าดวงดาวของเขาอีกด้วย 
             หลังจากแปลเพลงประกอบภาพยนตร์กันแล้ว ประโยคในภาพยนตร์ก็น่าสนใจไม่น้อยไปกว่าเพลงประกอบภาพยนตร์เลย เราลองมาดูประโยคส่วนหนึ่งของภาพยนต์รกันว่าน่าสนใจแค่ไหน




Skinny Pirate:                       What's the problem?
Captain Shakespeare:        It's my reputation.
Skinny Pirate:                       No. No. Don't be silly. Nonsense.
Old Pirate:                             It's all right, Captain. We always knew you were a whoopsie.
โจรสลัดผอม:                            เป็นอะไรล่ะ?
กัปตันเช็คสเปียร์:                      ชื่อเสียงข้าน่ะซิ
โจรสลัดผอม:                            ไม่ ไม่ อย่าเหลวไหลไปหน่อยเลย ไร้สาระน่า
โจรสลัดแก่:                              ไม่เป็นไรกัปตัน พวกเรารู้หมดแล้วน่าว่าลูกพี่แอ๊บแต๋วน่ะ


Yvaine:                                   What do stars do? They shine.
 อิฟเวน:                                   ดวงดาวทำอะไรล่ะ? ส่องสว่างไง
 

Yvaine:                                   Tell me about Victoria, then.
Tristan:                                   Well, she... she... There's nothing more to tell you.
Yvaine:                                   The little I know about love is that it's unconditional. It's not something you can buy.
Tristan:                                   Hang on! This wasn't about me buying her love. This was a way for me to prove to her how I felt.
Yvaine:                                   Ah... And what's she doing to prove how she feels about you?
Tristan:                                   Well... Look, Yvaine, you'll understand when you meet her, all right? If we don't get murdered by pirates first.
Yvaine:                                   Mmm... Murdered by pirates. Heart torn out and eaten. Meet Victoria. I can't quite decide which sounds more fun...
อิฟเวน:                                    ไหนเล่าเกี่ยวกับวิคตอเรียซิ
ทริสตัน:                                    เอ่อ นาง...นาง...ไม่มีอะไรจะเล่าให้เจ้าฟังอีกแล้ว
อิฟเวน:                                     ข้าก็พอรู้เรื่องความรักอยู่บ้างว่ารักมันไร้ข้อจำกัด ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าจะซื้อด้วยเงินได้
ทริสตัน:                                    เดี๋ยวก่อนนะ! นี่ไม่ใช่การซื้อความรักจากนางนะ มันคือทางที่ข้าจะพิสูจน์ความรู้สึกของข้าที่มีต่อนาง
อิฟเวน:                                     อ้อ แล้วนางทำอะไรเพื่อพิสูจน์ความรู้สึกของนางต่อเจ้าล่ะ
ทริสตัน:                                    ก็...นี่อิฟเวน เจ้าจะเข้าใจเองเมื่อพบนาง เข้าใจไหม ถ้าเราไม่ถูกฆ่าโดยโจรสลัดซะก่อนน่ะนะ
อิฟเวน:                                     อืม ถูกฆ่าโดยโจรสลัด ถูกควักหัวใจและถูกกิน เจอวิคตอเรีย ฉันตัดสินใจไม่ถูกเลยว่าอะไรน่าสนุกกว่ากัน


Septimus:                              Who are you? What business do you have here?
Tristan:                                   Septimus... I knew your brother, Primus.
Septimus:                              Unless you wish to meet him in the afterlife, I suggest you answer my question. What are you doing here?
Tristan:                                   I might ask you the same thing!
Septimus:                              Ah... There are four of them. Do as I say and we may stand a chance.
Tristan:                                   Wait! How do I know you can be trusted?
Septimus:                              You don't. Why? Do you have a choice?
Tristan:                                   No.
Septimus:                              Well then, let's go.
เซ็ปติมัส:                                  เจ้าเป็นใคร? แล้วมีธุระอะไรที่นี่
ทริสตัน:                                    เซ็ปติมัส....ข้ารู้จักพี่ชายท่าน, ไพรมัส
เซ็ปติมัส:                                  นอกเสียจากว่าเจ้าหวังว่าจะไปพบเขาหลังจากที่ตายไปแล้ว                                                 ข้าแนะนำเจ้าว่าควรจะตอบคำถามของข้า เจ้ามาทำอะไรที่นี่?
ทริสตัน:                                    ข้าก็ต้องถามท่านอยู่เหมือนกัน
เซ็ปติมัส:                                  อ่า... มีพวกมันอยู่สี่คน ทำตามอย่างที่ข้าบอกเราอาจจะพอมีโอกาส
ทริสตัน:                                    เดี๋ยวก่อน! ข้าจะเชื่อใจท่านได้อย่างไง
เซ็ปติมัส:                                  เชื่อไม่ได้ ทำไมน่ะหรอ? เจ้ามีตัวเลือกไหมล่ะ?
ทริสตัน:                                    ไม่
เซ็ปติมัส:                                  ดี ถ้างั้น ลุย